ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีทุกๆคน และขอบพระคุณท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านบทความนี้ครับ
ในบทความนี้เราจะมานำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวในเขตเมืองลอนดอนหรือ #City of London นั่นเองงง
จากวีดีโอที่ทุกคนได้รับชมกันไปนั้นเราเริ่มต้นเดินตั้งแต่ฝั่งตรงข้ามของ #Tower of London ซึ่งจะเป็นสถานที่ตั้งของที่ว่าการลอนดอน ในเขตนี้จะมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆและศูนย์กลางด้านธุรกิจและธนาคาร ที่เห็นสะพานอันสวยงามและคงได้ผ่านตากันในหนังดังหลายๆเรื่องก็คือ #Tower Bridge (อะๆสงสัยละซิ) คนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจผิดและพูดว่ามันไม่ได้เรียกว่า #London Bridge หรอ? หรืออาจจะด้วยเพลงยอดนิยมของเด็กๆใน Youtube ที่ร้องว่า London Bridge is falling down falling down(ไม่แปลกครับเพราะแรกๆตัวผมก็เข้าใจอย่างนั้น) แต่จะขอกระซิบดังๆเลยว่า มันเรียกว่า #Tower Bridge ครับ ซึ่ง #London Bridge มันอยู่ข้างๆกันนั่นแหละครับ อยู่ใกล้กับ #Borough Market เลยครัชอิอิ กลับมาที่ #Tower Bridge ต่อครับ ว่ากันว่าสะพานแห่งนี้สวยติดอันดับโลกกันเลยทีเดียว และถือว่าเป็น Landmark อีกที่นึงของมหานคร #London แห่งนี้ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกถึงปีละกว่า 2 ล้านคน กลางสะพานสามารถยกออกเพื่อให้เรือสินค้าผ่านได้และยังมีหอคอยคู่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแม่นำ้ #Thames เริ่มเปิดใช้ในปี ค.ศ.1894โดยใช้เครื่องสูบพลังไอนำ้ที่มีกลไกสลับซับซ้อนที่สุดในยุคนั้นในการยกสะพาน คนที่ต้องการจะเดินข้ามในขณะสะพานยกเพื่อให้เรือสินค้าผ่านจึงต้องใช้ทางเชื่อมคู่ขนานที่เชื่อมหอคอยทั้งสองฝั่งด้านบน ส่วนรถก็ต้องหยุดรอไป แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะหยุดรอดูสะพานเปิดแทนที่จะต้องปีนขึ้นบันไดกว่า 300 ขั้น จึงได้ปิดการใช้งานลงในปีค.ศ. 1910 ปัจจุบันทางเดินคู่ขนานด้านบนและหอคอยได้จัดทำนิทรรศการและประวัติความเป็นมาให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมกัน(ข้อมูลเพิ่มเติมตามลิ้งค์เลยนะจ๊ะ) https://www.towerbridge.org.uk/
เดินมาจนสุดสะพานด้านซ้ายมือก็จะพบกับ #Tower of London ที่ตั้งอยู่คู่เมืองนี้มานานกว่า 900 ปีแล้ว สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ ใช้เพื่อเป็นป้อมปราการและพระราชวังของพระองค์ ต่อมาในยุคกลางกษัตริย์องค์ต่อๆมาก็ได้ต่อเติมให้ใหญ่ขึ้นจนสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน บทบาทหลากหลายของหอคอยแห่งนี้ในอดีตเป็นทั้งป้อมปราการ ที่พำนักของราชวงศ์อังกฤษ โรงกษาปณ์ หอดูดาว คลังเก็บอาวุธ หอสมบัติและสวนสัตว์แสดงสัตว์ที่ได้รับเป็นของขวัญจากประเทศต่างๆมานานกว่า 600 ปี แต่บทบาทที่สำคัญเป็นที่จดจำมากที่สุด คือ เป็นคุกที่แสนจะโหดร้ายทั้งทรมานและประหารนักโทษทางการเมืองและราชวงศ์นั่นเอง ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมภายในซึ่งจะมีห้องต่างๆจำลองไว้ (ข้อมูลเพิ่มเติมตามลิ้งค์ที่แปะไว้ให้ครับ) https://www.hrp.org.uk/tower-of-london/
จาก #Tower of London ไม่ไกลเราก็จะมาถึง #St Paul's Cathedral เป็นมหาวิหารที่ได้ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดและเป็นอีกหนึ่ง Landmark สำคัญของมหานคร #London แห่งนี้ เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ค.ศ.604 โดยนักบุญเมลลิทัส(Saint Mellitus)จากกรุงโรม ตัววิหารแรกเริ่มสร้างจากไม้แต่โดนไฟไหม้เผาทำลายไปหลายรอบ ต่อมาในปีค.ศ.1087 มีการสร้างอาคารหลังใหญ่สไตล์กอธิคและใช้เป็นที่นมัสการมานานเกือบ 600 ปี ก่อนถูกเผาวอดวายในไฟไหม้ครั้งใหญ่ของกรุงลอนดอนในปีค.ศ.1666 แผนการสร้างวิหารหลังใหม่จึงเริ่มขึ้นโดยการออกแบบและถือเป็นผลงานชิ้นเอกของ Sir Christopher Wren เป็นมหาวิหารสไตล์บารอคอิตาลีหลังแรกและหลังเดียวของอังกฤษโดยหลุดจากแบบที่ได้ขออนุญาติไว้ให้สร้างจากพระเจ้าชาร์ลที่ 2 สร้างความตกใจแก่คณะกรรมการวิหารอยู่ไม่น้อย แต่ก็ได้สร้างความตราตรึงแก่สายตาชาวโลก สถาปัตยกรรมภายในก็งดงามไม่แพ้ภายนอก(ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปด้านใน) และสิ่งที่ไม่ควรพลาด คือการปีนขึ้นบันได 257 ขั้นไปยัง Whispering Gallery หรือระเบียงกระซิบ ที่ว่ากันว่าถ้ากระซิบผ่านกำแพงแล้วอีกฝั่งนึงของระเบียงจะได้ยินเสียงของเรา(อันนี้คงต้องมาลองกันเองนะจ๊ะ) ถ้ายังพอมีแรงเหลือก็เดินต่อขึ้นไปชมวิวเมืองลอนดอนบนระเบียง Stone Gallery และ Golden Gallery ที่อยู่สูงขึ้นไปอีก ส่วนบริเวรใต้ดินของพื้นวิหารเค้าเอาไว้ฝังศพบุคคลสำคัญๆของประเทศหนึ่งในนั้นก็คือ Sir Christopher Wren ผู้ออกแบบมหาวิหารแห่งนี้นั่นเอง(ข้อมูลเพิ่มเติมตามลิ้งค์นะจ๊ะ) https://www.stpauls.co.uk/
